The Hero’s Journey: โครงสร้างการเล่าเรื่องสุดคลาสสิกที่ไม่มีวันตาย

“The Hero’s Journey” หรือ “การเดินทางของฮีโร่” เป็นหนึ่งในโครงสร้างการเล่าเรื่องที่คลาสสิกที่สุดในโลกภาพยนตร์และวรรณกรรม ถูกนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องราวที่ตราตรึงใจคนทั่วโลก โครงสร้างนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดย Joseph Campbell นักวิชาการด้านตำนานและวรรณกรรม ในหนังสือ “The Hero with a Thousand Faces” ซึ่งอธิบายว่าฮีโร่ในทุกวัฒนธรรมมักมีการเดินทางคล้ายกันเพื่อเปลี่ยนแปลงและเติบโตในเรื่องราวของพวกเขา


12 ขั้นตอนของ The Hero’s Journey

โครงสร้างการเล่าเรื่องแบบนี้แบ่งออกเป็น 12 ขั้นตอน ที่สะท้อนการเติบโตของตัวละครและการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ได้แก่:

  1. The Ordinary World
    ฮีโร่อยู่ในโลกปกติ ชีวิตยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
    ตัวอย่าง: Luke Skywalker ใช้ชีวิตธรรมดาในไร่บนดาว Tatooine (Star Wars: A New Hope).
  2. Call to Adventure
    ฮีโร่ได้รับการเรียกสู่การผจญภัย เช่น เหตุการณ์กระตุ้นให้ต้องออกเดินทาง
    ตัวอย่าง: แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับจดหมายจากฮอกวอตส์ (Harry Potter and the Sorcerer’s Stone).
  3. Refusal of the Call
    ฮีโร่ลังเล ไม่พร้อมหรือกลัวที่จะออกผจญภัย
    ตัวอย่าง: โฟรโดลังเลที่จะรับแหวนแห่งพลัง (The Lord of the Rings).
  4. Meeting the Mentor
    ฮีโร่พบกับผู้ชี้แนะที่ให้คำแนะนำหรือมอบเครื่องมือ
    ตัวอย่าง: แกนดัลฟ์ให้คำแนะนำแก่โฟรโด (The Lord of the Rings).
  5. Crossing the Threshold
    ฮีโร่ข้ามผ่านขอบเขตจากโลกปกติสู่โลกใหม่
    ตัวอย่าง: นีโอตื่นขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงใน The Matrix.
  6. Tests, Allies, and Enemies
    ฮีโร่พบเพื่อนร่วมทาง เผชิญศัตรู และผ่านบททดสอบต่าง ๆ
    ตัวอย่าง: แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ทำภารกิจในฮอกวอตส์ (Harry Potter).
  7. Approach to the Inmost Cave
    ฮีโร่เข้าใกล้ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด
    ตัวอย่าง: ทีม Avengers วางแผนสู้กับธานอส (Avengers: Endgame).
  8. Ordeal
    ฮีโร่เผชิญหน้ากับความกลัวหรือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด
    ตัวอย่าง: โฟรโดเผชิญหน้ากับการต่อสู้ในภูเขามรณะ (The Lord of the Rings).
  9. Reward (Seizing the Sword)
    ฮีโร่ได้รับรางวัล หรือบรรลุเป้าหมายชั่วคราว
    ตัวอย่าง: ซิมบ้ากลับมาทวงคืนอาณาจักร (The Lion King).
  10. The Road Back
    ฮีโร่เดินทางกลับบ้าน แต่ยังมีบททดสอบอีก
    ตัวอย่าง: นีโอเลือกต่อสู้เพื่อช่วยผู้คนในโลกจริง (The Matrix).
  11. Resurrection
    ฮีโร่เปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง กลายเป็นตัวเองที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม
    ตัวอย่าง: โทนี่ สตาร์กเสียสละชีวิตเพื่อช่วยโลก (Avengers: Endgame).
  12. Return with the Elixir
    ฮีโร่นำสิ่งที่ได้เรียนรู้กลับมาช่วยเหลือโลกของเขา
    ตัวอย่าง: โฟรโดกลับมาที่ไชร์ แต่เลือกออกเดินทางอีกครั้ง (The Lord of the Rings).

ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ใช้โครงสร้าง The Hero’s Journey

  1. Star Wars: A New Hope (1977)
    • เรื่องราวของลุค สกายวอล์คเกอร์ตั้งแต่ชีวิตธรรมดาสู่การกลายเป็นฮีโร่
    • สะท้อนโครงสร้างการเดินทางของฮีโร่อย่างชัดเจน
  2. The Matrix (1999)
    • การตื่นรู้ของนีโอจากโลกจำลองสู่การเป็น “The One”
    • มีทั้งการพบผู้ชี้แนะ (มอร์เฟียส) และการเผชิญอุปสรรค
  3. The Lion King (1994)
    • ซิมบ้าต้องเดินทางกลับมาเผชิญกับความกลัวและทวงคืนอาณาจักร
    • เป็นตัวอย่างที่ดีของการกลับมาพร้อมบทเรียนสำคัญ
  4. Harry Potter Series (2001-2011)
    • เรื่องราวการเติบโตของแฮร์รี่ พอตเตอร์ตั้งแต่เด็กจนเป็นฮีโร่
    • ครบทุกขั้นตอนของโครงสร้างการเดินทางของฮีโร่

ทำไม The Hero’s Journey ถึงได้รับความนิยม?

  • โครงสร้างนี้เข้าใจง่ายและเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมได้ดี
  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมกับตัวละคร
  • สามารถปรับใช้ได้ในหลากหลายแนวเรื่อง เช่น แฟนตาซี ผจญภัย หรือดราม่า

สรุป:
“The Hero’s Journey” เป็นโครงสร้างการเล่าเรื่องที่ไม่เคยล้าสมัย แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามาหลายปี แต่ก็ยังสามารถสร้างเรื่องราวที่น่าจดจำและตราตรึงใจได้ หากคุณเป็นนักเขียนหรือผู้สร้างภาพยนตร์ การนำโครงสร้างนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้เรื่องราวของคุณมีเสน่ห์และเป็นที่จดจำอย่างแน่นอนครับ!