1) ข้อมูลคืออะไร
ข้อมูล (Data) คือข้อเท็จจริงที่ถูกรวบรวมไว้ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปตัวเลข ข้อความ เสียง ภาพ หรือวิดีโอ ข้อมูลยังเป็นเพียงสิ่งดิบ ต้องผ่านการจัดระเบียบ วิเคราะห์ และแปลความ จึงกลายเป็นสารสนเทศ (Information) ที่ใช้ในการตัดสินใจหรือแก้ปัญหาได้ เช่น คะแนนสอบรายวิชา รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือภาพถ่ายจากงานโรงเรียน
2) ประเภทของข้อมูล
2.1 ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data)
เป็นข้อมูลที่สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขได้ สามารถนำไปคำนวณทางสถิติ เช่น ค่าเฉลี่ย ร้อยละ หรือการเปรียบเทียบ เหมาะสำหรับการนำเสนอเชิงปริมาณที่ชัดเจน เช่น ส่วนสูงของนักเรียน น้ำหนักตัว หรือจำนวนหนังสือที่อ่านต่อเดือน
2.2 ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data)
เป็นข้อมูลที่บอกลักษณะหรือคุณสมบัติ ไม่สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขตรง ๆ ได้ แต่ช่วยอธิบายเหตุผล ความรู้สึก และมุมมองของผู้ให้ข้อมูล เช่น ความคิดเห็นของนักเรียนต่อการสอน ระดับความพอใจในกิจกรรม หรือสีที่นักเรียนชอบ
3) แหล่งข้อมูล
แหล่งข้อมูลคือที่มาของข้อมูล ซึ่งมีผลต่อความน่าเชื่อถือและความทันสมัย
3.1 ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data)
ข้อมูลที่ได้มาจากการเก็บโดยตรงตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการ จึงมีความสดใหม่และตรงเป้าหมาย เช่น แบบสอบถามที่นักเรียนตอบเอง การสัมภาษณ์ครูประจำวิชา หรือการทดลองในห้องเรียน
3.2 ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data)
ข้อมูลที่มีผู้เก็บไว้แล้ว เรานำมาใช้ต่อ สะดวกและประหยัดเวลา แต่ต้องระวังความล้าสมัยหรือเงื่อนไขการเก็บ เช่น รายงานสถิติการศึกษา หนังสือเรียน หรือข้อมูลจากเว็บไซต์ราชการ
4) การรวบรวมข้อมูล
มีหลายวิธีในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งควรเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมาย
- การสัมภาษณ์ เป็นการถามโดยตรงเพื่อเจาะลึกเหตุผลและความรู้สึก เช่น สัมภาษณ์นักเรียนเรื่องการบ้าน สัมภาษณ์ผู้ปกครองเรื่องเวลาการใช้อินเทอร์เน็ต หรือสัมภาษณ์ครูเรื่องปัญหาในการสอนออนไลน์
- การสำรวจ (แบบสอบถาม) เป็นการใช้คำถามชุดเดียวกันเพื่อเก็บข้อมูลจากคนจำนวนมาก เช่น แบบสอบถามความสนใจของนักเรียน แบบสอบถามเกี่ยวกับการใช้สมาร์ตโฟน หรือแบบสอบถามความพอใจต่อกิจกรรมโรงเรียน
- การสังเกต เป็นการเฝ้าดูพฤติกรรมหรือสถานการณ์จริง เช่น สังเกตเวลาที่นักเรียนใช้ในการทำงานกลุ่ม สังเกตการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน หรือสังเกตพฤติกรรมการใช้ห้องสมุด
- การทดลอง เป็นการควบคุมเงื่อนไขเพื่อศึกษาผลลัพธ์ เช่น ทดลองสอนด้วยสื่อดิจิทัลแล้วเปรียบเทียบผลกับการสอนปกติ ทดลองปลูกพืชในดินต่างชนิด หรือทดลองการใช้ซอฟต์แวร์แก้โจทย์คณิตศาสตร์
- การทบทวนเอกสาร เป็นการศึกษาและสืบค้นข้อมูลจากเอกสารหรือรายงานที่มีอยู่แล้ว เช่น รายงานประจำปีของโรงเรียน หนังสืออ้างอิงทางวิชาการ หรือบทความในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
- การสำมะโน เป็นการเก็บข้อมูลจากทุกคนในกลุ่มเป้าหมายเพื่อความครบถ้วน เช่น การเก็บข้อมูลจำนวนนักเรียนทั้งโรงเรียน การสำรวจข้อมูลพื้นฐานนักเรียนทุกห้อง หรือการเก็บข้อมูลสุขภาพของนักเรียนทั้งระดับชั้น
5) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมทำให้ข้อมูลที่เก็บมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ เช่น แบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Google Form ใบสัมภาษณ์ที่กำหนดคำถามไว้ล่วงหน้า หรือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน นอกจากนี้ยังอาจใช้เครื่องมือวัด เช่น นาฬิกาจับเวลา ตลับเมตร หรือแอปพลิเคชันเก็บข้อมูลบนมือถือ
6) สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการรวบรวมข้อมูล
- ความถูกต้อง (Accuracy): ข้อมูลต้องตรงกับความเป็นจริง ไม่คลาดเคลื่อนจากการวัดหรือคำถามที่กำกวม เช่น การถามชัดเจนว่า “โดยเฉลี่ยคุณเข้านอนกี่โมง” มากกว่าถามว่า “นอนดึกไหม”
- ความทันสมัย (Timeliness): ข้อมูลควรเป็นปัจจุบัน ตรงกับช่วงเวลาที่ใช้ตัดสินใจ เช่น การเก็บข้อมูลผลการเรียนของปีนี้ ไม่ใช่ปีที่แล้ว หรือข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของเดือนนี้ ไม่ใช่เมื่อหลายปีก่อน
- ความเกี่ยวข้อง (Relevance): ข้อมูลต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด เช่น หากต้องการศึกษานิสัยการอ่าน ควรถามเฉพาะเรื่องการอ่าน ไม่ต้องถามข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็น เช่น รายได้ครอบครัวหรืออาหารที่ชอบ
สรุปภาพรวม
ข้อมูลเป็นพื้นฐานสำคัญในการคิดเชิงคำนวณและการแก้ปัญหา ข้อมูลมีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มาจากทั้งแหล่งปฐมภูมิและทุติยภูมิ การรวบรวมข้อมูลสามารถทำได้หลายวิธี โดยต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและคำนึงถึงความถูกต้อง ความทันสมัย และความเกี่ยวข้องเสมอ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน