โดยทั่วไปกองถ่ายหนังสั้นจะไม่มีเงินทุนหรือไม่มีอุปกรณ์ราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสั้นของนักเรียนหรือเยาวชน มักจะเป็นการถ่ายทำกันเองโดยใช้วัสดุอุปกรณ์เท่าที่มีอยู่ ทำให้คุณภาพของงานที่ได้ไม่ดีนัก แม้จะเต็มไปด้วยข้อจำกัด แต่เราก็ยังสามารถสร้างงานให้มีคุณภาพดีได้ วันนี้ผมจะมาแบ่งปันเทคนิคการใช้แสงธรรมชาติ ในการถ่ายทำหนังสั้น
ทำไมต้องใช้แสงธรรมชาติ
แสงธรรมชาติมีราคาถูกหาได้โดยทั่วไป แต่เราควบคุมไม่ได้ (ถ้ามีทุนสร้างมากพอแนะนำให้ไปเช่าไฟ มาใช้ในการถ่ายทำดีกว่า)
สิ่งที่ควรรู้ก่อนครับใช้แสงธรรมชาติในการถ่ายทำ
อันดับแรกเราต้องรู้จักว่า “แสงมาจากทางไหน” แล้วจะตกกระทบวัตถุของเราในด้านไหน ตรงตามความต้องการของเราหรือไม่นอกจากนี้เรายังต้องรู้ว่ามุมที่ตกกระทบวัตถุ ให้แสงและเงาอย่างไร เพื่อที่เราจะได้วางแผนการถ่ายทำ ให้สอดคล้องกับแสงธรรมชาติ
เขียนบทภาพยนตร์ให้เอื้อต่อการใช้แสงธรรมชาติ
เมื่อเราไม่มีทุนที่จะเช่าไฟ เราจะต้องแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ตอนเขียนบทภาพยนตร์ เช่น ไม่เขียนบทให้เรื่องราวเกิดขึ้นในตอนกลางคืน หรือสถานที่ที่มืดจนเกินไป หรือถ้าจำเป็นต้องถ่ายทำในเวลากลางคืน ก็คนเขียนบทให้เหตุการณ์เกิดขึ้นในสถานที่ที่มีไฟส่องสว่าง
งดการถ่ายทำในช่วง สายถึงบ่าย
ถ้าเรื่องราวของเราเกิดขึ้นกลางแจ้ง หรือที่ที่มีแดดจัด เราก็ควรหลีกเลี่ยงการถ่ายทำภาพยนตร์ในช่วงสายถึงบ่าย เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว พระอาทิตย์อยู่บนศีรษะของเราพอดี ทำให้เกิดเงาบนใบหน้าของนักแสดง ภาพออกมาก็จะไม่สวย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายทำ คือช่วงเช้าและช่วงเย็น
เนื่องจากแสงธรรมชาติที่ได้ ไม่เข้มจนเกินไป ทำให้ภาพที่ออกมามีความสวยงาม
ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการถ่ายทำโดยใช้แสงธรรมชาติ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า แสงธรรมชาติเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ในบางฤดูกาลพระอาทิตย์จะตกไวมาก ดังนั้นก่อนการถ่ายทำด้วยแสงธรรมชาติ ควรมีการซักซ้อมและเตรียมตัวให้พร้อม และดำเนินการถ่ายทำให้เสร็จทันเวลาก่อนที่แสงจะหมด
สรุป
จากประสบการณ์ในการถ่ายทำ ยิ่งแสงใกล้หมด
นักแสดงก็เริ่มลน ทีมงานก็เบลอ ทำงานผิดๆ ถูกๆ
ดังนั้น ถ้ารู้ว่าซีนไหนมีเวลาจำกัด ก็ควรแจ้งทีมงานให้เตรียมพร้อม
เสน่ห์ของการถ่ายทำหนังสั้นโดยการใช้แสงธรรมชาติก็คือ
ความสมจริงเพราะภาพ เพราะเราจะได้ภาพในแบบที่คุ้นเคย
และในบางครั้งคนทำหนังสั้นทุนต่ำ ก็อาจจะได้ magic moment มาแบบเซอร์ไพรซ์อีกด้วยครับ