ในการทำงานบางงานอาจต้องมีการสร้างทางเลือก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง หลักในการสร้างทางเลือกคือการกำหนดเงื่อนไขในการตรวจสอบ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงตามที่ระบุ ก็กำหนดให้คำสั่งทำงาน ถ้าเราสามารถสร้างทางเลือกได้ ก็จะสามารถแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นได้
คำสั่ง if
if ใช้ตรวจสอบเงื่อนไขและสร้างทางเลือกในการทำงาน โดยทั่วไปในการสร้างเงื่อนไขนั้น จะมีการใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ ได้แก่ น้อยกว่า (<) มากกว่า (>) เท่ากับ (==) น้อยกว่าหรือเท่ากับ (<=) มากกว่าหรือเท่ากับ (>=) และไม่เท่ากับ (!=)
ตัวอย่างที่ 1 การสร้างทางเลือก
x=int(input("Enter number:"))
if(x>0):
print("True")
ผลลัพธ์
Enter number: (ป้อนเลข 1)
True
ตัวอย่างที่ 2 การสร้างทางเลือก 2 ทาง
x=int(input("Enter number:"))
if(x>0):
print("True")
else:
print("False")
ผลลัพธ์
Enter number: (ป้อนเลข 0)
False
ตัวอย่างที่ 3 การตรวจสอบเลขคู่ (even) หรือเลขคี่ (odd)
x=int(input("Enter number:"))
if(x%2==0):
print("even")
else:
print("odd")
ผลลัพธ์
Enter number: (ป้อนเลข 1)
odd
ตัวอย่างที่ 4 การตรวจสอบปีอธิกสุรทิน (leap year)
x=int(input("Enter year:"))
if(x%4==3):
print("leap year")
else:
print("normal year")
ผลลัพธ์
Enter year: (ป้อนเลข 2024)
leap year
ตัวอย่างที่ 5 การสร้างทางเลือก 3 ทาง
x=int(input("Enter number:"))
if(x>50):
print("more")
elif(x<50):
print("less")
elif(x==50):
print("equal")
ผลลัพธ์
Enter number: (ป้อนเลข 55)
more
การทำงานแบบมีทางเลือก if แล้ว เรายังสามารถใช้ Nasted if หรือที่เรียกว่า if ซ้อน if ไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทำงาน